8 ข้อมูล
เช็คสินค้าที่ดีในธุรกิจออนไลน์

...จะตัดสินใจเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าอะไรดี??

1. เป็นบริษัทที่ไม่เน่าไม่เสียง่าย มีอายุ 6 เดือน - 2 ปี

สินค้าที่ดี และแข่งขันได้ในโลกออนไลน์ จะต้องเป็นสินค้าที่ไม่เน่าเสียง่าย เพราะเราจะต้องมีการสต็อกสินค้าไว้บางส่วนรอลูกค้าสั่งซื้อ เพื่อให้รวดเร็วต่อการจัดส่ง และเราจะต้องจัดส่งสินค้า ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสินค้านั้นๆ จะต้องไปพบเจออะไรในระหว่างการส่งบ้างทั้งส่งในไทย หรือจัดส่งไปต่างประเทศ มันต้องใช้เวลา หากเน่าเสียง่าย ก็ไม่ควรจำหน่ายผ่านออนไลน์ ให้ใช้วิธีเปิดหน้าร้านไปด้วยจะเหมาะสมกว่า

2. มีน้ำหนักเบา ขนส่งง่าย ไม่แตกหักเสียหาย

เพราะการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ต้องมีการจัดส่ง ซึ่งการจัดส่งนั้นเราไม่ได้เป็นคนเดินทางไปส่งเอง จึงมีค่าใช้จ่ายโดยคิดคำนวณจากน้ำหนัก แถมเมื่อเราไม่ได้เป็นคนเดินทางไปส่งเอง เราก็ไม่รู้ว่าสินค้าเราจะไปพบเจออะไรบ้าง ดังนั้นสินค้าออนไลน์ที่ดี ต้องน้ำหนักเบา ไม่แตกหักง่าย จะได้ไม่มีปัญหาลำบากยุ่งยากในเรื่องการจัดส่ง 

3. มีกำไรเป็นเท่าตัว

รายได้ของการทำธุรกิจเกิดจากำไรจากการขาย สินค้าออนไลน์ที่ดีต้องมีกำไรเป็นเท่าตัว คุ้มค่าต่อการลงทุน ตัวเราจะได้ไม่ท้อแท้ คำว่ากำไรนี้ ไม่ได้หมายความเพียงแค่เงินส่วนต่างเท่านั้น แต่รวมอย่างอื่นด้วยที่เราจะได้ เช่น ความน่าเชื่อถือ มิตรภาพ หรือการทำประโยชน์เพื่อสังคม เป็นต้น นี่คือกำไรอันยิ่งใหญ่ ไม่แพ้เงินตราเลย

4. ต้นทุนต่ำ แข่งขันได้
ถ้าสินค้าเราไม่ได้มีเราที่จำหน่ายอยู่คนเดียว เราต้องมองตลาดด้วยว่าเขาจำหน่ายในราคาอะไร หากต้นทุนมาสูงลิบลิ่ว พอบวกกำไรราคาก็แพงโข แบบนี้ก็ไม่เวิร์ค จำหน่ายยาก แต่หากเป็นธุรกิจที่กำหนดราคาทุนและราคาขายอยู่แล้ว ขอให้ทำตามนั้น อย่าพยายามตัดราคาหั่นลง ยอมขาดทุนตัดราคาเพื่อทำให้ผู้จำหน่ายคนอื่นอยู่ไม่ได้ เพราะจะทำให้ตลาดสินค้าของเราเสียเป็นอย่างมาก
และข้อสำคัญ อย่าลดต้นทุนแบบไร้จรรยาบันเด็ดขาด เช่น ขายของละเมิดลิขสิทธิ์ ขายของไม่มีคุณภาพ ขายของเจือจาง หรือขายของปลอม 
จริงอยู่ว่า เขาอาจจะขายได้บ้างในช่วงแรก แต่ต่อไปเราจะถูกประโคมด่า เมื่อลูกค้ารู้ความจริง
ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยสนับสนุนคนที่ตัดราคา เพราะผมไม่ต้องการสนับสนุนธุรกิจของคนไร้จรรยาบันครับ
ขอให้มีจรรยาบันในการแข่งขัน อย่าลดเกียรติตัวเองด้วยการโกหกลูกค้า เพื่อหวังเศษเงินกำไรที่ไม่ได้สร้างให้ชีวินเปลี่ยน ขอให้ทำธุรกิจระยะยาว แล้วชีวิตเราจะมั่นคง
5. เป็นสินค้าต้องบริโภคซ้ำ
สินค้าที่ดี และสามารถทำให้ธุรกิจเราอยู่ได้สบาย ต้องเป็นสินค้าที่มีการบริโภคซ้ำได้ ไม่ใช่ซื้อไปแล้วหายไปเลย
สินค้าบางชนิดยอมรับว่า ใช้ได้ยาว 5 ปี 10 ปี เลยทีเดียว อันนี้การบริโภคซ้ำจะน้อย ถ้าเป็นสินค้าประเภทนี้ ต้องมีกลยุทธสร้างหรือพัฒนาสินค้าใหม่ที่ดีกว่าอยู่เสมอ หรือไม่ก็พยายามหาลูกค้าหน้าใหม่เสมอๆ
แต่ถ้าเราไม่ถนัดทำแบบนั้น สินค้าของเราต้องบริโภคซ้ำได้ง่าย เราจะขายสินค้าซ้ำได้เรื่อยๆ
แต่ข้อสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำคือ สินค้าดี ใช้แล้วดี และหมด อยากใช้ต่อ
6. มีเอกลักษณ์ และมีความแตกต่าง

สินค้าที่ดีต้องโดดเด่นและแตกต่างครับ จึงขายได้ ลองสังเกตดูนะครับ คนที่ขายของนำกระแสมักขายดี คนชอบซื้อของแปลกของใหม่ที่ไม่มี ถ้ามันแปลกใหม่ คนก็สนใจ บางทีการใช้งานของสินค้าใช้ไปเพื่ออะไร คนจะดูเป็นอันดับสอง แต่ดีไซน์ที่โดดเด่นไม่มีใครเหมือน อันนี้สิน่าสนใจ

7. จำเป็นต้องใช้ของลูกค้า 
ร่ายยาวมาตั้งนาน ผมบอกเลยมาจบที่ตรงนี้แหละครับ สินค้าที่ดี คือสินค้าที่ลูกค้าจำเป็นต้องใช้ 
สั้นๆ ง่ายๆ 
คำว่าจำเป็นต้องใช้ ทั้งด้วยอารมณ์ และเหตุผล
อารมณ์ คือ ความอยากได้ ถูกใจ ใช่เลย

เหตุผล คือ สินค้านี้สามารถแก้ไขปัญหาที่เขากำลังประสบอยู่ได้

หลายคนมาตกม้าตายตรงนี้ที่คิดว่า สินค้าของฉันมีมีประโยชน์ต่อผู้คนนะ ช่วยโน่นนี่นั่นให้เขาได้ อันนี้ผมเรียกว่าสรรพคุณสินค้า ไม่ใช่ความจำเป็นของลูกค้า การไปบอกสรรพคุณโดยไม่ถงไม่ถามปัญหาของเขา ลูกค้าจะรู้สึกถูกคุมคาม และถอยห่างจากเราไป
เช่น หน้าเหี่ยว มีริ้วรอย สินค้าเราลดหน้าเหี่ยวได้ ก็ตอบโจทย์สิ.....อืมมมม ก็ใช่ แต่ถ้าเขาไม่ได้รู้สึกว่า หน้าเหี่ยวคือปัญหาชีวิตเขา เขาก็ไม่ซื้อ และจะรำคาญที่เรานำเสนอสินค้าลดหน้าเหี่ยว 
ฉะนั้นเราคิดจะขายสินค้าอะไร ให้ไปดูปัญหาจริงของลูกค้าก่อน ไม่ใช่คิดไปเองว่าเขาน่าจะมีปัญหานั้น หลังจากนั้นสร้างความต้องการให้เขา ด้วยการยกปัญหาของเขาขึ้นมา แล้วค่อยตอบโจทย์ด้วยสินค้า ว่าทำไมเขาจำเป็นต้องใช้สินค้าของเรา
8. เหมาะสมกับตัวเรา
ไม่ใช่ว่าสินค้าชนิดนี้ใครๆ ก็ขายได้นะ 
บางทีสินค้าดี แต่ไม่ถูกจริตเรา อันนี้ก็ไม่เหมาะ ความน่าเชื่อถือของลูกค้า ความอินของตัวเรา มันจะแตกต่างกัน
เพราะการที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า 60% เพราะตัวสินค้า อีก 40% เพราะตัวเรา 
เราจึงจำเป็นต้องเลือกสินค้าที่มันเหมาะสมและถูกจริตกับตัวเราด้วย
อีกอย่างหนึ่ง จะขายอะไร ต้องลองใช้เองจนเกิดผลลัพธ์ด้วย ลูกค้าจะเชื่อถือตัวเรามาก และตัวเราก็จะเชื่อถือในตัวสินค้ามากด้วย มีประสบการณ์มั่นใจที่จะการันตี แต่ถ้าคิดว่าการใช้สินค้าแล้วขายทุน เลิกขายเถอะ ไปไม่รอดแน่นอน

และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญกว่า ที่ผมว่ามาคือ

"การสร้างตัวตนของเรา"

เขาบอกว่า "อยากมีเงินให้ขายของ แต่ถ้าอยากรวยให้ขายตัวเอง"

ถ้าเราสามารถสร้างตัวตนให้ตัวเองได้ (ขายตัวเอง) ถึงขนาดที่ใครๆ ก็นึกถึงเรา ใครๆ ก็พูดถึงเรา ใครๆ ก็คิดว่าเราเจ๋ง เราเชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ แล้วหละก็ คิดจะขายอะไรก็ขายได้ ลูกค้าจะไม่เกี่ยงเรื่องราคาเลย เราจะไม่ต้องไปแข่งเรื่องราคาเลย แม้จะขายแพงกว่าก็มีคนซื้อ ก็มีคนเต็มใจซื้อ เพราะเขาจะรู้สึกว่า เราขายของพรีเมียมกว่า และเชื่อว่าซื้อกับเรานั้นคุ้มค่ากว่า 
 

เห็นไหมครับ ลูกค้าตัดสินใจเพรราะรู้สึกคุ้ม และตัดสินใจด้วยอารมณ์ ส่วนเหตุผลจะมาทีหลัง ถ้าลูกค้าอยากได้สินค้ามากพอ เดียวเขาจะหาเหตุผลมีสนับสนุนเองว่าทำไมต้องซื้อ

 ฉะนั้น การสร้างตัวตนให้ติดตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการขายของ

ทำอะไรทำให้จริง เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ ให้จริง แล้วเราจะลอยตัวออกจากการแข่งขันเรื่องราคาตลอดไป

สร้างแบรนด์ให้ตัวเราเองดัง และชอบ แล้วคุณจะมีมนต์
เสมือนเป็นพระสังข์เรียกปลา นักธุรกิจออนไลน์เรียกคน
นักขาย คือ คนที่คิดว่าจะทำยังไงให้เราขายสินค้าให้ผู้คนได้มากๆ
นักการตลาด คือ คนที่คิดว่าจะทำยังไงให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้ากับเรา

ชมเรื่องราวดีๆ ต่อไปได้เลยครับ

This is the bottom slider area. You can edit this text and also insert any element here. This is a good place if you want to put an opt-in form or a scarcity countdown.